เคล็ดลับที่ 1 เตรียมพร้อม
คุณเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้หรือเปล่า ทางที่ดีที่สุดคือเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เตรียมแบตเตอรี่สำรองและเมมโมรี่การ์ดเอาไว้ เตรียมกล้องสำรองไว้ในรถ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ก็ตามแต่นั้นเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง ก่อนที่คุณจะออกไปถ่ายภาพในงานที่กำลังจะจัดขึ้น
▪ การค้นคว้าข้อมูล หาข้อมูลว่าใครบ้างที่จะมาร่วมงาน หาข้อมูลของกิจกรรม กิจกรรมต่างๆในงานเริ่มเมื่อไหร่ ในระหว่างจัดงานมีกิจกรรมพิเศษอะไรบ้างและจัดขึ้นที่ไหน เพื่อไม่ให้คุณพลาดช่วงเวลาสำคัญๆนี้
▪ จดลิสรายการภาพที่ต้องถ่าย การทำลิสรายการถ่ายภาพเป็นเครื่องมือที่สำคัญ มันช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะถ่ายภาพครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ และช่วยคุณประหยัดเวลาและไม่ตื่นตระหนก
▪ แต่งตัวให้เหมาะสม ช่างภาพควรเลือกเสื้อผ้าด้วยโทนสีกลางๆ สีดำเป็นสีที่เหมาะสม เสื้อผ้าสีสว่างจะทำให้เกิดการรบกวนทางสายตาและมีความเสี่ยงที่สีจากเสื้อผ้าจะไปสะท้อนกับแสงหรือวัตถุอื่นๆทำให้การถ่ายภาพมีสีที่ผิดเพี้ยนไป
▪ พยายามทำให้เงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าใส่รองเท้าที่จะทำให้เกิดเสียงดัง อย่าเปิดชัตเตอร์ ถ้าเป็นไปได้ตั้งโหมดถ่ายภาพแบบเงียบ เปลี่ยนเลนส์อย่างเบามือและหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่เป็นเทปหนามเตยหรือตีนตุ๊กแก อย่าเปิดแฟลช ถ้าคุณไม่จำเป็นต้องใช้มัน
เคล็ดลับที่ 2 ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม
คุณไม่จำเป็นต้องเอาอุปกรณ์พิเศษอลังการมาเยอะ โดยทั่วไปแล้วใช้เพียงแฟลชเสริมด้วย diffuser หรือ reflector, กล้อง DSLR แบบ full frame พร้อมเลนส์ซูมระยะปานกลาง, แบตเตอร์รี่สำรอง และ เมมโมรีการ์ด สิ่งเหล่านี้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่คุณจะต้องพกพา ถ้าเป็นงานในห้องขนาดใหญ่ที่มีผู้พูดบนเวที จำเป็นต้องใช้เลนส์เทเลโฟโต้ ถ้าเป็นสถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน ควรใช้เลนส์ Wide
เคล็ดลับที่ 3 ใช้แสงธรรมชาติให้มากที่สุด
พยายามใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงการใช้แฟลช แสงที่ไม่เป็นธรรมชาติจะทำให้รูปของคุณให้ความรู้สึกเหมือนเป็นภาพถ่าย มันจะมีความแข็งไม่เป็นธรรมชาติและทำให้รูปดูไม่น่าสนใจ ถ้าจำเป็นต้องใช้แฟลช ควรคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้อุปกรณ์ โดยอาจเลือกใช้ off- camera flash

เคล็ดลับที่ 4 วางแผนการถ่ายภาพพิธีกรและผู้คนโดยรอบ
ถ้าในงานกิจกรรมขององค์กรของคุณจะต้องถ่ายภาพของพิธีกร ผู้สนับสนุน หรือบุคคลสำคัญ คุณต้องแจ้งให้ช่างภาพทราบล่วงหน้า แจ้งสถานที่ที่พวกเขากำลังเดินทางมาและสถานที่ที่กำลังจะเดินทางไปเพื่อให้ช่างภาพของคุณถ่ายภาพพวกเขาเหล่านั้น ถ้ามีผู้เข้าร่วมงานที่เป็นบุคคลสำคัญที่ต้องถ่ายภาพ อย่าพลาดที่จะแจ้งให้ช่างภาพทราบ หรือมีบางคนที่ไม่ต้องการให้ถ่ายภาพ คุณจะต้องแจ้งช่างภาพด้วยเช่นกัน
เคล็ดลับที่ 5 อย่ากลัวที่จะโพสท์ท่าถ่ายรูป
ส่วนใหญ่แล้วงานกิจกรรมขององค์กรมักจะมีการถ่ายภาพผู้เข้าร่วมงานหลากหลายแบบ เช่นภาพแอบถ่ายตอนเผลอ ภาพที่ตั้งใจโพสต์ ภาพถ่ายแบบสนุกสนาน งานกิจกรรมส่วนใหญ่ต้องการเพียงภาพการจับมือกันอย่างเป็นเกียรติหรือเป็นทางการกับบุคคลที่เป็นที่สนใจหรือมีชื่อเสียง แต่เมือไรที่คุณกำลังทำอาหารเย็นหรือพูดคุยเรื่องสัญญา หรือ แฟชั่นโชว์ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ขอให้เชื่อมั่นในความคิดสร้างสรรค์ของช่างภาพของคุณแล้วคุณจะได้ภาพที่ไม่เหมือนใครไปลงอินสตาแกรม



เคล็ดลับที่ 5 อย่ากลัวที่จะโพสท์ท่าถ่ายรูป
ส่วนใหญ่แล้วงานกิจกรรมขององค์กรมักจะมีการถ่ายภาพผู้เข้าร่วมงานหลากหลายแบบ เช่นภาพแอบถ่ายตอนเผลอ ภาพที่ตั้งใจโพสต์ ภาพถ่ายแบบสนุกสนาน งานกิจกรรมส่วนใหญ่ต้องการเพียงภาพการจับมือกันอย่างเป็นเกียรติหรือเป็นทางการกับบุคคลที่เป็นที่สนใจหรือมีชื่อเสียง แต่เมือไรที่คุณกำลังทำอาหารเย็นหรือพูดคุยเรื่องสัญญา หรือ แฟชั่นโชว์ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ขอให้เชื่อมั่นในความคิดสร้างสรรค์ของช่างภาพของคุณแล้วคุณจะได้ภาพที่ไม่เหมือนใครไปลงอินสตาแกรม
เคล็ดลับที่ 6 ถ่ายภาพภายใต้แสงไฟฟลูออเรสเซนต์
ถ้างานกิจกรรมนั้นถูกจัดอยู่ในหอประชุมขนาดใหญ่หรือห้องประชุม คุณอาจจะมีปัญหากับแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ อย่าใช้แฟลชเพื่อแก้ปัญหานี้ ควรใช้การตั้งค่าความสมดุลของสีจะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ดีขึ้น สิ่งสำคัญที่คุณควรให้ความสำคัญ คือสี ใช้การปรับ white balance จะช่วยให้ภาพมีความสมดุลกับโทนสีของแสงฟลูออเรสเซนต์ โดยทำการปรับในระหว่างที่คุณกำลังถ่าย คุณสามารถหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพที่จะทำให้ผิวสีเหลืองด้วยการสร้างแสงขึ้นมา ตัวอย่างเช่นถ้าคุณอยู่ภายในอาคาร คุณสามารถให้แสงไฟกระทบกับผนังหรือเพดานเพื่อทำให้ภาพมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เคล็ดลับที่ 7 การวางกรอบ
คนจำนวน 3-5 คนเป็นจำนวนที่เหมาะสมในการจัดวางองค์ประกอบของการถ่ายภาพที่ดี คุณสามารถถ่ายได้หลายแบบทั้งแบบเต็มตัว ครึ่งตัว หรือถ่ายแค่หน้า ถ่ายให้เต็มเฟรมอย่าให้มีพื้นที่สีขาวหรือพื้นที่ว่าง ยกเว้นแต่ว่าคุณต้องการ
เคล็ดลับที่ 8 ใช้การถ่ายแบบนามธรรมสำหรับทำการตลาด
คนเราจะเพ่งความสนใจไปที่หน้าก่อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังด้านบวกและความเข้มแข็ง แต่มันยังสามารถทำให้เราไขว้เขวได้เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ภาพถ่ายงานกิจกรรมขององค์กรสำหรับทำการตลาด ดังนั้นถ้าคุณควรลองใช้ภาพงานกิจกรรมที่ดูเป็นนามธรรมและปรับให้เบลอเล็กน้อย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถจินตนาการถึงตัวเองได้ง่ายขึ้น
เคล็ดลับที่ 9 ถ่ายภาพในรูปแบบ RAW
รูปแบบ RAW จะใช้เซนเซอร์ในการบันทึกข้อมูลทั้งหมดและให้ภาพที่มีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อย ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยากในการปรับรูปแบบ JPEG โดยใช้โปรแกรม Lightroom หรือ Photoshop การใช้ RAW จะทำให้คุณทำงานง่ายกว่าในการแก้ไขภาพที่มีแสงน้อยหรือมากเกินไป คุณสามารถทำได้ถ้ามีพื้นที่ในไดร์ฟมากพอ



เคล็ดลับที่ 10 เวลาเป็นสิ่งสำคัญ
ถ้าคุณไม่เห็นว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญ อาชีพคุณก็จบแล้ว ดังนั้นอย่าไปงานสาย อย่าตอบอีเมลล์ช้า รู้ว่าต้องถามอะไรบ้างเกี่ยวกับตารางงานเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีเวลาพอที่จะทำทุกอย่าง หรืออย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าช่วงเวลาไหนที่คุณจะต้องเร่งการถ่ายภาพ ควรทำงานภายใต้สัญญาและส่งมอบให้เร็วกว่ากำหนด ตัวอย่างเช่นถ้าคุณบอกว่าคุณจะส่งงานให้ภายใน 2 อาทิตย์ พยายามส่งงานให้ได้ภายใน 1 อาทิตย์ และไม่ควรส่งงานในอาทิตย์ที่ 3 ถ้าคุณทำได้นั่นจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคุณ
หากคุณกำลังมองหา เทคนิคถ่ายภาพ คอร์สสอนถ่ายภาพ หรือโรงเรียนสอนถ่ายภาพ ติดต่อเราได้ที่ บริษัท พรานภาพ จำกัด