การพูดได้สองภาษาคือข้อได้เปรียบ
คนที่พูดภาษาต่างประเทศได้จะเป็นที่ต้องการตัวของหลาย ๆ บริษัทมากกว่าคนอื่น ๆ โดยเด็กในวัยกำลังเจริญเติบโตจะสามารถเรียนรู้ภาษาได้เร็ว ดังนั้นการสอนภาษาให้เด็กจึงถือว่าเป็นการวางรากฐานในอนาคตให้กับพวกเขานั่นเอง
เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้ภาษาได้เร็วเมื่ออายุยังน้อย
การเรียนรู้ภาษาที่สองก่อนอายุห้าขวบจะใช้หลักการเดียวกันกับการเรียนรู้ภาษาแม่ เด็กไม่มีความกลัวที่จะพูดผิดเหมือนกับผู้ใหญ่ที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษา โดยสมองของเด็กสามารถซึมซับข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นเดียวกับการที่ผู้ใหญ่จดจำเนื้อเพลง, จังหวะ, หรือทำนองเพลงได้ เด็ก ๆ จะเริ่มจากการแยกเสียงของภาษาต่าง ๆ ออกจากกันเพื่อให้รู้ความหมายของภาษานั้น ๆ ซึ่งความสามารถนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอายุหกขวบจนถึงช่วงวัยรุ่น และหยุดลงในช่วงอายุ 11 ถึง 15 ปี
เพิ่มพูนทักษะด้านต่าง ๆ
จากการวิจัยพบว่าเด็กที่พูดได้สองภาษาจะมีทักษะการแก้ไขปัญหา, การคิดอย่างมีวิจารณญาณ, การมีทักษะในการทำงานหลายอย่างดีกว่า อีกทั้งยังมีความคิดที่ยืดหยุ่นกว่าและมีแนวโน้มที่จะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเด็กที่พูดได้ภาษาเดียว โดยทักษะเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อผลการเรียนของเด็ก ทำให้ทักษะการอ่าน, เขียน, และทักษะทางคณิตศาสตร์ดีขึ้น และทำให้คะแนนการสอบสูงกว่ามาตรฐานอีกด้วย
สามารถเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ได้ง่าย
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศไม่ได้ทำให้เด็ก ๆ สับสนหรือทำให้การเรียนรู้ภาษาแม่ช้าลง แต่กลับทำให้เด็กเรียนรู้ภาษาเดิมได้ดียิ่งขึ้นกว่าการพูดภาษาเดียว โดยการเรียนรู้หลักไวยากรณ์ของภาษาต่างประเทศจะเป็นการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ไวยากรณ์ของภาษาเดิม นอกจากนี้การเรียนรู้ภาษาที่สองยังทำให้เด็กเรียนรู้ภาษาอื่นได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสที่ดีให้กับพวกเขาในอนาคต
มีความตระหนักรู้ในวัฒนธรรมและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น
เด็กที่เรียนภาษาต่างประเทศตั้งแต่เด็กจะมีทัศนคติที่ดีกับวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษาที่เรียน เด็ก ๆ จะมีความสามารถในการวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้อื่นเนื่องจากได้เรียนรู้คำศัพท์, โครงสร้างไวยากรณ์, หรือแม้แต่วัฒนธรรมของชนชาติอื่น การเรียนภาษาจึงถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ ทำให้เด็กเข้าใจวัฒนธรรมของผู้อื่นผ่านการเรียนรู้ภาษา ซึ่งจะเป็นผลดีกับการใช้ชีวิตในอนาคต