ในระบอบประชาธิปไตย เด็กและผู้ใหญ่ควรเรียนรู้วิธีการเป็นพลเมืองที่ดีและมีประสิทธิภาพ ผ่านการศึกษา ซึ่งการศึกษาเป็นมากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องเรียน การศึกษาหลัก ๆ นั้นมี 3 รูปแบบ: การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
การศึกษาในระบบหรือที่เรียกว่าการศึกษาแบบทางการ นั้นจะได้รับโดยอาจารย์ที่มีคุณสมบัติพร้อม ซึ่งพวกเขาจะมีประสิทธิภาพในเรื่องการสอน และนักเรียนจะได้รับประโยชน์จากกระบวนการเรียนรู้ที่มีแบบแผนอย่างเป็นระบบจากการศึกษาประเภทนี้ เนื่องจากสถาบันต่างๆ มีการจัดการวางแผนเป็นอย่างดี การเรียนรู้ในสถานที่เหล่านี้สามารถนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นทางการและสามารถหางานได้ง่ายในอนาคต
อย่างไรก็ตาม นอกจากข้อดีข้างต้นแล้วก็มีข้อเสียบางประการเช่นกัน นักเรียนโดยส่วนใหญ่มักจะพึ่งพาครูมากเกินไปในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเรียน หากครูแสดงการสนิทสนมกันกับนักเรียนแค่ในบางกลุ่ม ก็อาจจะส่งผลเสียกับนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ได้ รวมถึงนักเรียนอาจจะรู้สึกเบื่อได้ ถ้าหากครูไม่มีวิธีการสอนที่ทำให้การเรียนมีเอกลักษณ์และน่าสนใจ
วิธีการสอนที่หลากหลายนั้นเป็นสิ่งที่ควรต้องรู้ในปัจจุบัน การผสมผสานวิธีการสอนต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ครูมืออาชีพแต่ละคนควรมีการนำไปใช้ในห้องเรียน โดยวิธีการสอนนั้นมี 4 ประเภท:
• วิธีการที่ครูเป็น ‘ศูนย์กลาง’ ของการเรียนรู้
• วิธีการที่นักเรียนเป็น ‘ศูนย์กลาง’ ของการเรียน
• แนวทางที่มีการใช้ข้อมูลที่มีเทคโนโลยีล้าหลัง
• แนวทางที่มีการใช้อุปกรณ์ที่มีความทันสมัย
ในบรรดาวิธีการทั้ง 4 ประเภทนี้ การใช้ครูเป็นศูนย์กลางและมีนักเรียนเป็นศูนย์กลาง นั้นเป็นประเภทที่ปฏิบัติกันอย่างแพร่หลายมากที่สุด
วิธีการเรียนที่เน้นครูเป็นศูนย์กลางนั้นขึ้นอยู่ศูนย์กลางที่ส่งผ่านข้อมูลไปยังนักเรียน ซึ่งเป้าหมายหลักของวิธีการนี้ คือ การสอนและวัดความรู้ตามการประเมินและแบบทดสอบต่าง ๆ ข้อดีคือ การจัดเรียงเนื้อหาทางการศึกษาอย่างเป็นระบบ การพัฒนาโดยความร่วมมือ และการมุ่งเน้นไปที่หัวข้อ ข้อเสียของวิธีนี้คือเนื้อหาที่จำกัด นักเรียนมีการพึ่งพาครูฝ่ายเดียวและมีเพียงการประเมินผลขั้นสุดท้ายเท่านั้น
กระบวนการเรียนรู้ในวิธีการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางนั้นมีการแบ่งอย่างเท่าเทียมกันระหว่างครูกับนักเรียน ความรู้นั้นจะได้รับการประเมินผ่านโครงงาน งานกลุ่ม การอภิปรายผลงาน และเช่นเดียวกับวิธีการสอนประเภทอื่น ๆ วิธีนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือการประเมินที่มีส่วนร่วมของนักเรียนทั้งหมดในกระบวนการเรียนรู้และมีการเน้นความสำคัญของความรู้ที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็จำเป็นต้องใช้ทักษะพิเศษของครูเป็นอย่างมากและอาจเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนบางคน ซึ่งมักจะมุ่งเน้นไปที่ความต้องการส่วนตัวของนักเรียน
ลองศึกษาวิธีการทั้งหมดนี้และถามตัวเองว่านักเรียนของคุณจะเข้าใจและเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในการอภิปรายหรือไม่ เมื่อต้องตัดสินใจว่าคุณควรจะใช้วิธีการสอนแบบใดที่เหมาะสมมากที่สุด